ประวัติของโรงเรียน

                โรงเรียนบ้านดงแสนตอ(ผดุงราษฎร์วิทยาคาร) เดิมอาศัยศาลาวัดศรีแก้ว บ้านดงแสนตอ เป็นที่ทำการ  ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่  ๑  เดือน ธันวาคม   พ.ศ. ๒๔๗๗  ให้ชื่อว่า  โรงเรียนประชาบาลตำบลตาลเนิ้ง ๕ ( วัดศรีแก้ว )  หลวงพิศาลสารกิจ  นายอำเภอสว่างแดนดินเป็นผู้จัดตั้งขึ้น  ดำรงอยู่ได้ด้วยเงินบำรุงการศึกษา   จัดการสอนตามหลักสูตรของกระทรวงธรรมการ มีนายรอง ศรีวิไล มารักษาการในตำแหน่งครูใหญ่  ต่อมาเมื่อวันที่  ๑๗  พฤษภาคม  พ.ศ.  ๒๔๘๗  ได้ย้ายจากศาลาวัดศรีแก้วมาเรียนที่อาคารชั่วคราว  ในที่ดินที่ชาวบ้านมอบให้สร้างอาคารเรียน  ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างบ้านดงแสนตอกับบ้านเหล่านาสีนวล  ต่อมามีการสร้างอาคารเรียนขึ้นมาใหม่ โดยรื้ออาคารเรียนชั่วคราวแล้วสร้างเป็นอาคารถาวรทำด้วยไม้ ตามแบบ  ป.๑ฉ ของกระทรวงธรรมการเมื่อวันที่  ๑๗  กุมภาพันธ์  พ.ศ.  ๒๔๙๗

               วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๗๗ นายรอง ศรีวิไล มารักษาการแทนครูใหญ่ แล้วถูกย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านแวง ๒ เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๔๘๐

                วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๗ นายก้อน ปัญจรักษ์ เสมียนธรรมการ มาดำรงตำแหน่งครู แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนบ้านค้อใต้ ๒ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๗

                วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๔๘๐ นายโสม  ราชไชย มาดำรงตำแหน่งครูที่โรงเรียนแห่งนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนตำบลตาลเนิ้ง เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๘๖

                วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๔๘๓ นายหา  ชื่นบุญ มาดำรงตำแหน่งครู รักษาการแทนครูใหญ่ แล้วย้าวไปเป็นครูโรงเรียนบ้านคำตานา เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๐๑

                วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๘๘ นาสาวหนูเกลื่อน  เมืองมุงคุณ มาดำรงตำแหน่งครู แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านโพนสูง เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๔๘๕

                วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๔๘๕ นายสิม  สมบัติบุญ ครูโรงเรียนสว่างแดนดิน มาดำรงตำแหน่งครู จนได้เลื่อนเป็นครูใหญ่ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านนามน อำเภอเมือง สกลนคร เมื่อ  ๒๔ ธันวาคม ๒๕๐๘

                วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๔๘๖ นางสาวบุญมา  นาเชียงใต้ ครูโรงเรียนบ้านโคกสี มาดำรงตำแหน่งครู แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านตาลเนิ้ง ๓ เมื่อวันที่  ๑ สิงหาคม ๒๔๘๗

                วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๔๘๕ นางวัลภา  หัวเมืองราช ครูโรงเรียนบ้านตาลเนิ้ง ย้ายมาเป็นครูโรงเรียนแห่งนี้ แล้วย้ายกลับไปเป็นครูโรงเรียนบ้านตาลเนิ้ง เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๔๘๖ 

                วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘ นางอรพินท์  จักษุจินดา มาดำรงตำแหน่งครู แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านตาลเนิ้ง เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๔๙๒

                วันที่ ๑๗  พฤษภาคม ๒๔๘๙ได้ย้ายนักเรียนจากอาคารเรียนศาลาการเปรียญวัดศรีแก้ว มาอาศัยอยู่อาคารเรียนชั่วคราวในที่ดินของโรงเรียน

                วันที่ ๑๘  สิงหาคม ๒๔๙๒ นายสีนวล  แก้วบัณฑิต ครูโรงเรียนบ้านตาลเนิ้ง มาดำรงตำแหน่งครู แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านทรายมูล เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๔๙๙

                วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๔๙๒ นายสมศักดิ์  อุ่นคำ มาดำรงตำแหน่งครู แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านนาแยง ตำบลม่วงไข่ อำเภอพรรณนานิคม เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๔๙๗

                วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๙๗ นายสุรพิน  ศรีสำราญ มาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนแห่งนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านหนองลาด อำเภอวาริชภูมิ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๙๙

                วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๔๙๙ นายเที่ยง  สุวรรณไชยรบ มาดำรงตำแหน่งครูแล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านหนองแสง เมื่อวันที่ ๑๓  สิงหาคม ๒๕๐๑

                วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๔๙๙ นายเรวัตร  แก้วคำสอน มาดำรงตำแหน่งครู แล้วลาออกไปประกอบอาชีพอื่นเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๐๑

                วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์  ๒๕๐๑ นายดำรง  ทองทิพย์ มาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนแห่งนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านโคกสำราญ เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๐๒

                วันที่ ๑๓  สิงหาคม ๒๕๐๑  นายประมุข  ใจสุข ครูโรงเรียนบ้านตาลโกน ย้ายมาเป็นครูโรงเรียนนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านหนองแสง เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๐๓

                วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๐๒ นายเชาวสัตย์  จันคูเมือง ครูโรงเรียนบ้านกุดแสง ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านกลาง อำเภอเมืองสกลนคร เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๐๖

                วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓ นายเสถียร  หันจางสิทธิ์ วุฒิ ป.กศ. เป็นครูบรรจุใหม่โรงเรียนแห่งนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านส่องดาว เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๐๕

วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๐๔ นายวีระชัย  บริบูรณ์ มาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านหนองทุ่ม  เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๐๔

วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๐๔ นายประมุข  ใจสุข ครูโรงเรียนบ้านหนองแสง ย้ายมาเป็นครูโรงเรียนนี้อีกเป็นครั้งที่ ๒ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านทุ่งมน ตำบลทุ่งแก เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๐๕

วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๐๕ นายกมล วงศ์ประทุม มาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนแห่งนี้แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านโคกศาลา อำเภอวาริชภูมิ เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๐๘

วันที่ ๑๘  มิถุนายน ๒๕๐๕ นายที  สาขามุละ ครูโรงเรียนบ้านคำตานาย้ายมาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านนาเตียง เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๑๑

วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๐๘ นายบุญธรรม แก้วคำสอน มาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนบ้านหนองแวง เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๐๘

                วันที่  ๗ สิงหาคม ๒๕๒๗ได้รับมอบอาคารเรียนแบบ  สปช.๑๐๕/๒๕๒๖  ขนาด  ๒ ชั้น ๘  ห้องเรียน            

                วันที่  ๘ มกราคม ๒๕๒๘  ได้รับมอบอาคารเอนกประสงค์

                วันที่  ๒  ธันวาคม  ๒๕๒๙  ติดตั้งไฟฟ้าอาคารเรียนด้วยเงินงบประมาณ

                วันที่  ๒๒  กันยายน  ๒๕๓๑  รับมอบการสร้างสนามกีฬา  ฟ.๑  ราคา  ๙๙,๐๐๐  บาท

                วันที่  ๒  กรกฎาคม  ๒๕๓๔  รับมอบถังน้ำ  ฝ.๓๐  พิเศษ  ราคา  ๖๕,๐๐๐  บาท

                วันที่  ๓๐  มกราคม  ๒๕๓๕  สร้างหอกระจายข่าว  ราคา  ๕,๖๐๐  บาท  โดยได้รับการสนับสนุนจากศิษย์เก่า

                ปี พ.ศ. ๒๕๔๗  ได้ทำการก่อสร้างรั้วคอนกรีตล้อมรอบโรงเรียน โดยได้รับงบประมาณจาการการทำผ้าป่า  เมื่อวันที่ ๑๓  เมษายน ๒๕๔๗ งบประมาณทั้งสิ้น ๒๕๐,๐๐๐ บาท

                วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์  ๒๕๕๐ โรงเรียนรับมอบลานกีฬาอเนกประสงค์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร งบประมาณผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูณาการ(งบซีอีโอ)

                ปี พ.ศ.๒๕๕๐ ได้จัดทำป้ายชื่อโรงเรียนด้านหน้าโรงเรียน งบประมาณ ๕๕,๐๐๐ บาท โดยได้รับงบประมาณจากการนำเหรียญหลวงพ่อวันจำนวน ๕๐๐ เหรียญ มาให้ชาวบ้านทั้ง ๔ หมู่บ้านบูชา ได้เงิน ๕๐,๐๐๐ บาท คณะครูบริจาคสมทบอีก ๕,๐๐๐  บาท

                ผู้บริหารโรงเรียนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งโรงเรียน  จนถึงปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น  ๑๐  คน  สำหรับผู้บริหารโรงเรียนคนปัจจุบันคือ นายประวิทย์  เหมะธุลิน     ย้ายมาจากโรงเรียนชุมชนบ้านส่งดาวมาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านดงแสนตอ  เมื่อวันที่  ๑๕  ธันวาคม  ๒๕๕๗

                ปัจจุบันโรงเรียนบ้านดงแสนตอ(ผดุงราษฎร์วิทยาคาร)มีที่ดินถือครองจำนวน ๒ แปลง แปลงที่ ๑ เป็นแปลงที่ตั้งของโรงเรียนในปัจจุบัน มีพื้นที่  ๑๓  ไร่ ๑ งาน ๖๓ ตารางวา แปลงที่ ๒ ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตร มีพื้นที่ ๒๘ ไร่ ๑ งาน ๔๔ ตารางวา