โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๖๒(บ้านนาหัวบ่อบัวหนองเม็ก)  ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑  เดือนเมษายน  พ.ศ.  ๒๔๖๓  โดยมี  โดยรองอำมาตย์โท ขุนภูวดล บริรักษ์ เมื่อครั้งยังรับราชการเป็นนายอำเภอพรรณานิคม เป็นผู้ตั้งขึ้น โดยอาศัยศาลาวัดโพธิ์คำ บ้านนาหัวบ่อเป็นสถานที่เล่าเรียน มีนายสงบ  บุตราช  เป็นครูใหญ่คนแรก

               ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ ทางราชการเห็นว่าการที่จะให้เด็กอาศัยเรียนยู่ที่ศาลาวัดเห็นว่าไม่สะดวก จึงให้เงินทุนสะสมเป็นเงิน ๒๕๐ บาท เพื่อเป็นค่าแรงการก่อสร้าง ส่วนตัวไม้ได้จากกำนันผู้ใหญ่บ้าน และราษฎร ตลอดจนครูประชาบาลช่วยกันจัดทำและจัดหาจนสำเร็จ ในที่ดินของโรงเรียน อาคารเรียนหลังแรกนี้ นายสุคนธ์ (หนู)  ศิริกุล นายอำเภอพรรณานิคม ทำการเปิดเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๘๒ โดยมีนายสีนวล บุตรราช เป็นครูใหญ่

               โรงเรียนนี้ดำรงอยู่ด้วยเงินสะสมศึกษาประชาบาล ให้จ่ายเป็นเงินเดือนครู และค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑ จึงได้อาศัยเงินงบประมาณแผ่นดินส่วนการสอนได้จัดการสอนตามประมวลของกระทรวงศึกษาธิการ

               วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๔๙๓  ทางราชการได้แต่งตั้งนายสีนวล  บุตรราช ดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านสูงเนิน ตำบลพอกน้อย และได้แต่งตั้งนายปรีชา  ฉิมป้อง มาดำรงตำแหน่งแทน ต่อมาเมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๔๙๘ ทางราชการได้จัดให้ครูใหญ่อบรมวิธีสอนภาษาไทยแบบเบสิค และได้ดำเนินการสอนแบบเบสิคในปีเดียวกัน ตามประกาศของกรมวิชาการ การใช้แบบเรียน ป.๑ พ.ศ. ๒๔๙๗ ทุกประการ

               วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๙ ได้ย้ายสถานที่เรียนกลับไปอาศัยศาลาการเปรียญวัดโพธิ์คำอีก เนื่องจากอาคารเรียนได้ทรุดโทรมไม่ปลอดภัยที่จะใช้ทำการศึกษาต่อไป

               พ.ศ. ๒๕๐๒ ทางราชการได้ให้เงินงบประมาณมาจัดสร้างอาคารเรียนใหม่ เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท โดยวิธีการให้ชาวบ้านหาตัวไม้สมทบ การก่อสร้างได้สำเร็จและย้ายนักเรียนกลับมาเรียนอาคารหลังใหม่ เมื่อวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๒

               วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๐๓ ทางราชการได้แต่งตั้งนายสมศักดิ์  กลยนีย์  มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทนนายปรีชา  ฉิมป้อง ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านดาวเรือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

ในปีการศึกษา ๒๕๐๓ ทางราชการได้เปลี่ยนแปลงการสอนจากหนังสือแบบเรียนมาใช้ประมวลการสอน ต่อมาทางราชการได้จัดสรรงบประมาณเป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท เพื่อมาจัดการซ่อมแซมพื้น ฝา ลูกกรงบันได

               วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๙ ทางราชการได้โอนโรงเรียนประชาบาลทุกโรงให้แก่องค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ  ดังนั้นโรงเรียนนี้จึงสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร

               พ.ศ. ๒๕๑๓  ทางราชการได้ย้ายนายสมศักดิ์  กลยนีย์ ไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านโนนเรือตอเรือ และได้แต่งตั้งนายวิโรจน์  ศรีสุทัศน์ ครูใหญ่โรงเรียนบ้านโนนเรือตอเรือมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนนี้แทน

               ปีการศึกษา ๒๕๑๖ โรงเรียนได้เปิดทำการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ตามแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้สร้างอาคารเรียนขึ้น ๑ หลัง โดยความร่วมมือจากราษฎรทั้งสามหมู่บ้านและคณะครูในโรงเรียน

               พ.ศ. ๒๕๑๗ ทางราชการได้แต่งตั้งนายประมูล  นนตะแสน มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ตามคำสั่งที่     ๖๕/๒๕๑๗ ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ และนายประมูล  นนตะแสน ได้ย้ายไปเป็นวิชาการอำเภอพรรณานิคม

               พ.ศ. ๒๕๒๑ ทางราชการได้แต่งตั้งนายประมูล  นนตะแสน กลับมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่เป็นครั้งที่สอง ตามคำสั่งที่ ๑๙๙๑/๒๕๒๑ ลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ แทนนายตองอ่อน  สนิทนา ซึ่งย้ายไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนชุมชนบดมาดพอกน้อย และในปีการศึกษา ๒๕๒๑ ได้เริ่มใช้หลักสูตรประถมศึกษา ๒๕๒๑

               วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๓ ทางราชการได้แต่งตั้งนายสำราญ  ศรีพรหมทัติ  มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ตามคำสั่งที่ ๐๐๒๗/๒๕๒๓ ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๒๓ แทนนายประมูล  นนตะแสน ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอพรรณานิคม

               ในปีการศึกษา ๒๕๒๕ สปจ.สกลนคร ได้แต่งตั้งย้ายนายเฉลย  วาทะวัฒนะ ครูใหญ่โรงเรียนบ้านสูงเนิน มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนนี้ และแต่งตั้งย้ายนายสำราญ  ศรีพรหมทัติ ไปดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนชุมชนบดมาดพอกน้อย

               วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๒๗ ทางราชการได้เลื่อนตำแหน่งโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ และอนุมัติครูใหญ่เป็นอาจารย์ใหญ่

               ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ อาคารเรียนหลังที่ ๑ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๒ ทรุดโทรมมาก หากใช้เป็นสถานที่เล่าเรียนต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อเด็กนักเรียน จึงได้ขออนุญาตรื้อถอน พร้อมทั้งของบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนทดแทนหลังที่ขอรื้อถอน ปรากฏว่าได้รับอนุมัติให้รื้อถอนและขายเป็นเงินรายได้แผ่นดิน (๓๓,๓๓๙ บาท) แต่ไม่ได้รับงบประมาณก่อสร้างทดแทนหลังที่รื้อถอนไป ทำให้อาคารเรียนไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน (ขณะนั้นมีจำนวนนักเรียน ๒๔๑ คน จำนวนห้องเรียน ๑๐ ห้อง) มีอาคารเรียนเพียง ๓ หลัง หลังละ ๓ ห้องเรียน ซึ่งเป็นขณะที่มูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้แจ้งไปยังสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสกลนครและจังหวัดอื่น ๆ อีกรวม ๑๓ จังหวัด จะสร้างอาคารเรียนไทยรัฐวิทยา โดยมีเงื่อนไขว่าคณะกรรมการศึกษาของโรงเรียนต้องยินยอมเปลี่ยนชื่อโรงเรียนจากคำว่า “โรงเรียนบ้านนาหัวบ่อบัวหนองเม็ก” เป็น “โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๖๒(บ้านนาหัวบ่อบัวหนองเม็ก)” ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อที่โรงเรียนแห่งนี้จะได้เข้าอยู่ในโครงการที่จะได้รับการสนับสนุน อุปถัมภ์บำรุงรักษา อุปกรณ์การเรียนการสอน การกีฬา การเกษตร ห้องสมุด อาหารกลางวัน ตลอดถึงการขาดแคลนด้านอื่น ๆ จะได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐตลอดไปในอนาคต ซึ่งคณะกรรมการศึกษาทุกคนเข้าใจในเหตุผลและยินดี ยินยอมตามเงื่อนไข จึงได้เสนอขอเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๖๒(บ้านนาหัวบ่อบัวหนองเม็ก)

               วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๒๙ ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยมีนายพีระ  บุญจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานและมีตัวแทนจากไทยรัฐมาร่วมพิธี นายวิมล  ยิ้มละมัย  นายสมบูรณ์  วรพงษ์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ในจังหวัดสกลนครเป็นจำนวนมาก

               ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๐ ทำพิธีมอบอาคารเรียนไทยรัฐวิทยา ๖๒ แก่กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายพจน์  ธัญญขันธ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการและนายแฎง  สตารัตน์  รองเลขาธิการ สปช. เป็นตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รับมอบ ผู้มอบคือนายวิมล  ยิ้มละมัย และนายสมบูรณ์  วรพงษ์  ตัวแทนจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และมีนายพีระ  บุญจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายสมชัย  อุดรโพธิ์ ผอ.ปจ.สกลนคร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ในจังหวัดสกลนคร และประชาชนมาร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก ในวันรับมอบอาคารไทยรัฐนี้ ทางมูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้มอบเงินสดจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เป็นทุนจัดตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาไทยรัฐวิทยา ๖๒(บ้านนาหัวบ่อบัวหนองเม็ก) เพื่อนำไปออกผล ไปส่งเสริมการศึกษาของโรงเรียนแห่งนี้ตลอดไปในอนาคต โรงเรียนได้ดำเนินการขออนุมัติจัดตั้งมูลนิธิไปยังสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ และได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ